รีวิว “พรหมลิขิต บุพเพสันนิวาส 2” เต็มไปด้วยความสนุกครบรส
หนังเรื่องนี้นำแสดงโดย โป๊บ และ เบลล่า นั้นเต็มไปด้วยความสนุกสนาน และมีทั้งฮาและดราม่าที่ครบถ้วน! “บุพเพสันนิวาส” ละครย้อนยุคที่ทรงเสน่ห์และสร้างปรากฏการณ์ให้หลายคนหลงรัก พร้อมที่จะสานต่อเรื่องราวอันน่าประทับใจในซีซั่นที่ 2 ด้วยชื่อว่า พรหมลิขิต บุพเพสันนิวาส 2 ที่ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จจากสองตอนแรก แต่ยังกลิ่นอายของความนิยมที่ยากจะปฏิเสธ ด้วยยอดผู้ชมสดมากกว่า 1 ล้านคน แฟนๆ ต่างเฝ้ารอคอยตอนที่ 3 และ 4 อย่างใจจดใจจ่อ
“พรหมลิขิต” ความโรแมนติกปะทะดราม่าในเรื่องราวภาคต่อจาก “บุพเพสันนิวาส”
เรื่องย่อ: เน้นย้ำชีวิตของ ‘พุดตาน’ หญิงสาวผู้หลงใหลในศาสตร์แห่งการจัดสวน ความทรงจำในวัยเด็กของเธอที่จางหายไปพร้อมกับการสูญเสียพ่อแม่จากอุบัติเหตุตอนอายุเพียงแปดขวบ พุดตานถูกเลี้ยงดูโดย ‘วิภาวี’ ผู้เป็นป้า แต่ในใจเธอกลับไม่รู้สึกผูกพันหรือคิดถึงป้าเธอเลย แม้แต่น้อย และในขณะเดียวกัน วิภาวีก็มีใจสองด้านทั้งรักและแค้น ต่อหลานของเธอ เพราะพุดตานไม่เคยยอมรับความสูญเสียและไม่เคยพูดถึงพ่อแม่ที่ได้จากไป สิ่งนี้ทำให้วิภาวีรู้สึกว่าพุดตานไม่เข้าใจถึงความหมายของความรัก เธอจึงตั้งคำถามในใจว่าพุดตานจะสามารถเรียนรู้ที่จะรักใครสักคนได้หรือไม่ รวมถึงเธอเองที่ได้เสียสละเวลามาดูแลเธอ
ในวันที่ฟ้าและดินกลืนกินเวลา พุดตานที่กำลังสลับมือกับดินและต้นไม้ในสวนที่อยุธยา ถูกเหตุการณ์เหนือธรรมชาติดึงดูด ใต้ผืนดินที่คนงานและเธอพลิกไปมา คือหีบสมบัติที่แฝงปริศนาของอดีต หีบถูกเปิดและสมุดข่อยโบราณถูกค้นพบ แต่แล้วก็เกิดปาฏิหาริย์ เมื่อแสงยิงฟาด และร่างของเธอก็จางหายไปในสายตาของคนงานที่เหลือเพียงความงุนงง
ทว่าที่อีกหนึ่งโลกของเวลาที่ยังหมุนวนไม่เลิกรา ดูหนัง ชัดๆ
ในสมัยทวารวดีศรีอยุธยา ที่ท้ายสระ พระเจ้าองค์ใหม่ได้ประทับบัลลังก์ หมื่นมหาฤทธิ์ หรือ พ่อริด ซึ่งเป็นเลือดขององค์ราชันย์และเจ้าคณะใหญ่ ได้พบแสงประหลาดจากพื้นดิน จากการขุดค้น พบกับหีบสมบัติที่หลบซ่อนความลับมานานนับร้อยปี พ่อริดพบคัมภีร์โบราณ แต่แล้วเมื่อมือของเขาสัมผัสสมุดข่อย เกิดแสงสว่างราวกับพลังที่สั่นสะเทือนจักรวาล และจากนั้น ร่างของหญิงสาวที่ไม่เคยปรากฏในภูมิปัญญาของพวกเขาก็ปรากฏขึ้น นั่นคือพุดตาน หญิงสาวจากอนาคตที่หลุดผ่านม่านเวลามาพบกับอดีตอันเก่าแก่
การรับบทหลายบทในละครเรื่องเดียวเป็นงานที่ท้าทายสำหรับนักแสดง ช่อง3HD ทุกคน
สำหรับโป๊บ ธนวรรธน์ การรับบทเป็นพ่อเดช (พระยาวิสูตรสาคร), พ่อริด (หมื่นมหาฤทธิ์) และพ่อเรือง (หมื่นณรงค์ราชฤทธา) ในละครพรหมลิขิต บุพเพสันนิวาส 2 ครบทุกEP ถือเป็นการทดสอบฝีมือของเขาอย่างสูงสุด แต่ละตัวละครมีบุคลิก นิสัย และอารมณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
พ่อเดช หรือ พระยาวิสูตรสาคร เป็นตัวละครที่มีความเป็นผู้นำสูง ทรงพลัง มั่นคง และเป็นที่พึ่งของครอบครัว ต้องการความแข็งแกร่งและความมั่นใจเพื่อสวมบทบาทนี้
ส่วนพ่อริด หรือ หมื่นมหาฤทธิ์ แสดงถึงความเป็นหนุ่มที่มีอารมณ์ขัน ยิ้มแย้ม และมีชีวิตชีวา ซึ่งเป็นการสื่อถึงความเป็นตัวละครที่ชอบความสนุกสนานและการผจญภัย
และสุดท้ายพ่อเรือง หรือ หมื่นณรงค์ราชฤทธา ซึ่งมีลักษณะเป็นคนเงียบ คิดมาก และเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ มีความซื่อสัตย์และจริงจังกับชีวิต
โป๊บจึงต้องใช้ทักษะทางการแสดงในการแยกแยะและนำเสนอบุคลิกที่หลากหลาย พร้อมกับการรักษาความสม่ำเสมอของแต่ละบทบาทให้ชัดเจน และไม่ทำให้ผู้ชมสับสน การรับบทแบบนี้ยังต้องการการเตรียมตัวอย่างรอบคอบ ทั้งในด้านการวิจัยตัวละคร การทำความเข้าใจในสภาพแวดล้อมและบริบททางประวัติศาสตร์ รวมถึงการฝึกซ้อมท่าทางและการแสดงออกทางอารมณ์ให้เหมาะสมกับแต่ละบทบาท นี่คืองานแสดงที่เรียกว่าสุดยอดทั้งความท้าทายและความสำเร็จสำหรับนักแสดงที่ต้องการทดสอบและขยายขีดความสามารถของตัวเอง
ในละครเรื่องนี้ เบลล่า ราณี แคมเปน ได้รับหน้าที่ที่ท้าทายไม่น้อยในการรับบทเป็นเกศสุรางค์ (การะเกด) และพุดตาน ทั้งสองตัวละครนี้มีความแตกต่างกันมาก ทั้งบุคลิกและประวัติของตัวละคร
เกศสุรางค์ (การะเกด) เป็นหญิงสาวที่ได้แต่งงานกับพ่อเดช (พระยาวิสูตรสาคร) และมีบุตรด้วยกันถึง 4 คน ในฐานะแม่ของลูกๆ เธอต้องแสดงให้เห็นถึงความอบอุ่น ความอ่อนโยน และความเข้มแข็งในการดูแลบุตรและครอบครัวในยุคสมัยนั้น
ส่วนตัวละครพุดตาน เป็นหญิงสาวที่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากการสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งส่งผลให้เธอมีชีวิตที่โดดเดี่ยวและเต็มไปด้วยความเศร้าสลด ไม่รู้จักคำว่ารักหรือผูกพัน ตัวละครนี้ต้องการการแสดงออกที่ลึกซึ้งและเต็มไปด้วยอารมณ์
การที่เบลล่าต้องสลับระหว่างสองตัวละครที่มีความหลากหลายทางอารมณ์และสถานการณ์ชีวิตนี้ เป็นการทดสอบความสามารถในการแสดงของเธออย่างมาก ต้องการการเตรียมพร้อมทั้งทางกายภาพและจิตใจ รวมถึงความเข้าใจในบุคคลิกและความรู้สึกของแต่ละตัวละคร เพื่อให้ผู้ชมสามารถจดจำและเชื่อมโยงกับแต่ละบทบาทที่เธอแสดงได้อย่างชัดเจนและลึกซึ้ง.
เกรท วรินทร ได้รับบทเป็นสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ (เจ้าฟ้าเพชร) ในละครพรหมลิขิต ซีรีส์ภาค 2 สามารถรับชมได้ที่ movie2uhd ซึ่งเป็นตัวละครใหม่ที่ไม่ได้ปรากฏใน “บุพเพสันนิวาส” ภาคที่ผ่านมา สมเด็จพระเจ้าท้ายสระ (เจ้าฟ้าเพชร) นับเป็นตัวละครสำคัญที่ถูกพูดถึงและคาดหวังมากในการปรากฏตัวของพระองค์ในเรื่อง
ตัวละครของสมเด็จพระเจ้าท้ายสระเป็นกษัตริย์ที่มีลักษณะพิเศษที่ชอบใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย พระองค์มีความสนใจที่จะสัมผัสและเข้าใจชีวิตของประชาชนในหลากหลายมุมมอง โดยชอบปลอมตัวออกไปใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดา เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างจากในวัง ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยพบเห็นในหมู่ผู้ทรงศักดิ์
แม้ว่าในตอนที่ 1 และ 2 พระองค์จะยังไม่ได้ปรากฏตัว แต่คาดว่าเราจะได้เห็นการปรากฏตัวของสมเด็จพระเจ้าท้ายสระในตอนที่ 3 หรือตอนต่อๆ ไป การรับบทของเกรท วรินทรจะต้องแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และความเรียบง่ายในตัวของกษัตริย์ที่มีทั้งความซื่อสัตย์และความเป็นมนุษย์ ที่มีความต้องการที่จะเข้าใจราษฎร์ของพระองค์ในแง่มุมที่แตกต่างจากที่เคยเห็นในหน้าประวัติศาสตร์.
ฉากที่ทำให้ประทับใจในซีรีส์พรหมลิขิต บุพเพสันนิวาส 2
ต้องยกให้กับฉากสวีทของแม่หญิงการะเกดและพ่อเดช (พระยาวิสูตรสาคร)
ซึ่งการแสดงของโป๊บและเบลล่าทำให้ความรู้สึกหวานแหววนั้นล้นออกมาจากจอ ทำให้ผู้ชมเขินไปกับเคมีที่ลงตัวของพวกเขาได้อย่างดีเยี่ยม ฉากที่แม่หญิงการะเกดสอนหน้าที่สามีหรือที่เรียกว่า “การบ้าน” นั้น สร้างความฟินและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน ทั้งยังมีความตลกขำขันแฝงอยู่ ทำให้เป็นฉากที่น่าจดจำและทำให้ผู้ชมต้องยิ้มไปกับพวกเขา อย่างไรก็ตาม ฉากเหล่านี้ยังทำให้เห็นถึงความสามารถในการนำเสนออารมณ์ต่างๆ ของนักแสดงได้อย่างหลากหลายและน่าประทับใจมากจริงๆ คะแนนเต็ม สิบจากสิบเลยทีเดียวค่ะ!
หลังจากการประสบความสำเร็จของ “บุพเพสันนิวาส” หลายคนอาจกังวลว่าภาคต่อจะทำได้ดีเท่ากันหรือไม่
แต่สามารถตอบโจทย์นั้นได้ดีเยี่ยม EPล่าสุด บุพเพสันนิวาส 2 เรื่องราวในซีรี่ย์เป็นการต่อยอดที่สร้างสรรค์ โดยเน้นไปที่รุ่นลูกของพ่อเดชและแม่หญิงการะเกด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อริด (หมื่นมหาฤทธิ์) กับพุดตาน ที่เป็นตัวเอกของเรื่อง
พุดตาน หญิงสาวยุคปัจจุบันที่หลงใหลในการจัดสวนได้ย้อนเวลากลับไปยังยุคกรุงเทพทวารวดีศรีอยุธยาผ่านสมุดข่อยที่พบในหีบสมบัติ และการพบกันระหว่างเธอกับพ่อริดก็สร้างเรื่องราวที่ทั้งวุ่นวายและน่าติดตาม ความพิเศษของซีรี่ย์เรื่องนี้ อยู่ที่การผสมผสานระหว่างอดีตกับปัจจุบัน อีกทั้งยังได้นำเสนอมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลา
นอกจากการเล่าเรื่องที่น่าสนใจแล้ว ซีรีส์ยังเต็มไปด้วยนักแสดงที่หล่อเหลา ทั้งซิกแพคและเสน่ห์ ทำให้ไม่ว่าจะเป็นฉากไหนๆ ก็ละลานตาไม่หยุด พร้อมทั้งการแสดงที่ทรงพลัง บทสนทนาที่ไหลลื่น และการสร้างภาพที่อลังการทำให้เป็นซีรีส์ที่ควรค่าแก่การติดตามและไม่ควรพลาดในการชมให้เลยสักตอนค่ะ!
ตอนล่าสุด พรหมลิขิต2 วันออกอากาศ สามารถรับชมได้สดๆ ที่ช่อง 3 HD
ตอนที่ 3 และ 4 กำลังจะออกอากาศในวันพุธและพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ ใครที่ยังไม่ได้เริ่มติดตามดู ควรรีบไปหาดูกันให้ได้เลยนะคะ ไม่งั้นจะไม่สามารถร่วมเม้าส์มอยกับคนอื่นได้แน่ๆ เพราะเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่กำลังเป็นที่พูดถึงมากในขณะนี้ สามารถรับชมได้สดๆ ที่ช่อง 3 HD และถ้าหากพลาดชมสด ก็สามารถดูย้อนหลังได้ที่ ช่อง 3HD ค่ะ อย่าลืมไปติดตามกันล่ะ!